สองนครศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมใจของชาวมุสลิมทั่วโลก

เมื่อพูดถึงนครศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลามที่ตั้งอยู่ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย สำหรับชาวมุสลิมทั่วโลก ถือเป็นความใฝ่ฝันและบุญอันสูงสุด ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าหากได้มีโอกาสมาจาริกแสวงบุญที่ “เมกกะห์ และเมดิน่าห์” สองนครศักดิ์สิทธิ์นี้ 

“เมกกะห์” (Mekkah) เมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนาอิสลาม มีชื่อเต็มว่า “มักกะตุลมุกัรเราะมะฮ์” เป็นบ้านเกิดของท่านนบีมูฮัมหมัด ศาสดาของศาสนาอิสลาม โดยภายในนครเมกกะห์นั้น เป็นสถานที่ตั้งของศาสนสถานที่สำคัญอย่าง “มัสยิดอัลฮะรอม”  มัสยิดที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก และยังเป็นอาคารหลังเดี่ยวที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่ามากถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายในมัสยิดแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของศาสนสถานที่สำคัญที่สุด นั่นคือ "วิหารกะบะฮ์" (Kaaba) ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ประกอบสองพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์  คือ “ฮัจญ์” และ “อุมเราะห์“ ของนักจาริกแสวงบุญชาวมุสลิมทั่วโลก

จุดที่ตั้งวิหารกะบะฮ์ จะเป็นจุดศูนย์กลางของมัสยิด โดยชาวมุสลิมจะมาฏอวาฟ (เดินเวียนรอบ) ในช่วงประกอบพิธีฮัจญ์ และพิธีอุมเราะฮ์ 
และในการละหมาดประจำวันของชาวมุสลิมทั่วโลก จะหันหน้ามายังทิศทางที่วิหารกะบะฮ์ตั้งอยู่เสมอ โดยตามประเพณีของศาสนาอิสลามเชื่อกันว่า  การละหมาดในมัสยิดหลวงอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จะเท่ากับการละหมาด 100,000 ครั้งในมัสยิดที่อื่นๆ ทั่วโลก   

จึงไม่แปลกที่ นครเมกกะห์แห่งนี้ จะเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวมุสลิมและผู้นับถือศาสนาอิสลามทั่วทุกมุมโลก กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งในชีวิตของมุสลิม ที่มีความพร้อมด้านการเงินและร่างกาย จะต้องเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่เมืองเมกกะห์แห่งนี้  ดังนั้นในแต่ละปี จะมีผู้คนหลายล้านคนเดินทางเพื่อมาจาริกแสวงบุญที่ซาอุดิอาระเบีย 
การเดินทางเข้านครเมกกะห์ นั้นมีข้อห้ามปฏิบัติต่างๆ เช่น ห้ามตัดต้นไม้ ห้ามล่าสัตว์ ห้ามต่อสู้กันนอกจากเพื่อป้องกันตัว และห้ามผู้ที่ไม่ศรัทธาเข้าไปในบริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น

มาถึงเมืองเมดิน่าห์ (Medinah) ก็เป็นอีกหนึ่งนครที่มีความสำคัญในศาสนาอิสลาม เป็นอันดับที่สองรองจากเมืองเมกกะห์ เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของ “มัสยิดอันนะบะวี” หรือ “มัสยิดศาสนทูต” มัสยิดแห่งนี้ท่านนบีมุฮัมมัดเป็นผู้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 622 มีชื่อเต็มว่า “อัลมะดีนะตุลมุเนาวะเราะฮ์” ซึ่งมัสยิดแห่งนี้เป็นที่ฝังพระศพของท่านนบีมุฮัมมัด โดยฝังอยู่ในสุสานซึ่งเป็นอาคารโดมสีเขียว ปัจจุบันสุสานแห่งนี้ถูกปิดตาย ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปชม  ทางการซาอุดิอาระเบียให้เหตุผลในการปิดว่า เพื่อป้องกันการทำผิดหลักศาสนา  โดยอ้างว่าเมื่อตอนที่เปิดนั้น มีหลายคนเข้าไปกราบ (ซูยุด) ศพท่านศาสดา ซึ่งเป็นการทำผิดตามหลักศาสนาอิสลามที่อนุญาตให้กราบได้แต่พระเจ้า (พระอัลเลาะห์) เท่านั้น จึงมีการสร้างประตูปิดเพื่อป้องกันการเกิดปัญหานี้อีก 

ถึงแม้ว่าสุสานที่ฝังพระศพท่านศาสดานี้ถูกปิดตาย มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1806 โดยไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปชมทั้งสิ้น ภาพที่มีเกี่ยวกับภายในสุสานแห่งนี้ ก็มีแต่ขาวดำและภาพวาดเท่านั้น แต่กระนั้นก็ไม่อาจยับยั้งแรงศรัทธาของชาวมุสลิมทั่วโลกที่ต้องการมาเยือนเมืองเมดิน่าห์ เพื่อได้มาจาริกแสวงบุญยังมัสยิดอันนะบะวี อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

Let’s go to Saudi Arabia !

Top